Review Google Home VS Google Home Mini
รีวิว Google Home VS Google Home Mini
เนื่องจาก Google home Mini ก่อนนี่คือ
Google home Mini ด้านในก็มีตัวก็ Home มีคู่มือแล้วก็มีรักให้แบบนี้ไหมเดี๋ยวเรามาดูตัวเป็นๆแล้วกันทั้ง
2 ตัวเลยทั้ง 3 ตัวนี้ก็ให้คำจำกัดความว่าเป็นน้ำหนักเบาน่ารักพอดีมาเป็นพอร์ต
Micro USB ต้องเสียบไฟบ้านตลอดเวลาในด้านข้างก็จะมีสวิตซ์เปิดปิดการรับเสียซึ่งมี
3 สีให้เลือกไหมมีสีแดงสีดำแล้วก็สีเทาที่ผมได้มาตัวนี้เลยด้านบนตรงนี้จะเป็นไฟแสดงสถาระดับของเสียงและการตอบรับของตัว
Google ส่วนด้านข้างสามารถเพิ่มและลดเสียงได้โดยการแตะเบาๆเท่านั้นส่วน Google
มันก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยด้านล่างก็จะเป็นที่เสียบ AC Power Jack ด้านหลังเป็นปุ่มเปิดปิดการรับเสียงตรงนี้รวมถึงถ้ากดค้างก็จะเป็นการรีเซ็ตตัวโกงไปในตัวในด้านบนจะเป็นไฟแสดงสถาการตอบรับไม่มีการสั่งคำสั่งในการควบคุมระดับเสียงโดยการร่างเป็นวงกลมในและแตะตรงกลางเพื่อเป็นการ
Play Pause ในขณะที่เล่นเพลงในส่วนด้านข้างที่จะมีไมโครโฟนอยู่ 2
ตัวซึ่งผมโคตรประทับใจกับการรับเสียงของไมมากในด้านล่างตัวนี้เป็น Cover เป็นแม่เหล็กถอดง่ายเลยมีลำโพงอยู่
3 ตัวด้วยกันไหม 1 2 แล้วก็ 3 ตัวพรุ่งนี้จะเป็น Micro USB
ซึ่งใช้สำหรับการเซอร์วิสเท่านั้นในตู้มีน้ำหนักพอสมควรก็สามารถที่จะตั้งได้มั่นคงแล้วก็ไม่โอนเอนง่ายๆเชื่อมต่อ
Google home กับอินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้วแล้วก็ไม่จำเป็นที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์หรือว่ามือถือที่จะควบคุมมันอีกต่อไปก็สามารถที่จะเริ่มประโยคได้เลยคะว่า
OK Google หรือว่า Hey Google อยากรู้อะไรก็ถามได้เลยที่ Google what time is it
now OK Google What the weather in Osaka Tomorrow อยากจะหาสถานที่ด้วยเดี๋ยวจะทานกาแฟ
Ok Google เชื่อมต่อเข้าด้วยกันก็ได้
spotify YouTube
แล้วก็รวมถึงผิวที่ผมใช้งานอยู่เลยถ้าเกิดว่าใครยังไม่ได้ดูเนี่ยก็ย้อนกลับไปดูคลิปก่อนหน้านี้ได้ไหม
แก๊สที่บ้านแล้วก็สามารถสั่ง Google home เนี่ยเล่นอะไรก็ได้บน Chromecast ไหมให้
google chrome Cache on my YouTube โคตรเจ๋งมากๆเลยตอนนี้ผมใช้งานประมาณ 2 อาทิตย์ผมก็โคตรประทับใจในภาเสียของมันเลยถึงแม้ว่าเราจะอยู่อีกมุมนึงของห้องมันก็ยังรับเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพในแล้วก็ถ้าเกิดว่าห้องนั้นเงียบเลยแค่พูดเบาๆมันก็ยังสามารถรับคำสั่งเราได้เลยแ***โคตรเจ๋งเลยจะเป็นอะไรไม่รองรับภาษาไทยไหมแต่สำหรับผู้ที่ยังไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษหรือว่าสำเนียงยังไม่ได้ยังไม่เป็นก็ไม่ต้องกังวลเพราะว่าการสั่งคำสั่งเนี่ยผมก็จะสนใจแค่รูปประโยคว่าเราอยากให้มันทำอะไรไปทำที่ไหนเลยเช่นถ้าเกิดว่าอยากจะให้เปิดไฟล์ในก็ต้องมีคำว่าเธอนอนไหมหรือว่าอยากจะให้เปิดที่ไหนเนี่ยก็ต้องเป็นไปว่าโอเคอยากให้เปิดไฟที่ห้องนั่งเล่นห้องนอนอะไรประมาณนี้ว่าเราเทียบระหว่าง
Apple Home kit กับตัว Google Assistant มันก็จะมีความแตกต่างกันอยู่นิดนึงจากประสบการณ์การใช้ของผมคงคิดว่าสามารถที่จะเสร็จได้เลยว่าห้องเรามีไฟอยู่
5 ดวงเราอยากจะดูหนังขึ้นมาก็สั่งไปเลยคะว่า Movie Time Wallpaper อะไรก็ตามแต่ที่เราตั้งเอาไว้แล้วก็สามารถที่จะได้ว่าไอ้หมูมีช้างเนี่ยอยากจะให้มันเปิดกี่หลอดเปิดดวงไหนบ้างหรี่ดวงไหนบ้างเป็นแสงสีอะไรมันก็จะสะดวกมากเลยแต่สำหรับตัว
Google home แล้วเนี่ยเราไม่สามารถที่จะเซ็ตเป็นทีมแบบนั้นได้ตัวก็งงก็จะไปลิงค์กับตัว
Application หิวแต่ตัวให้เป็นเพื่อนของ Siri เนี่ยก็จะมีซีนที่เขาเซฟมาให้แล้วแต่ว่าวันนี้เรายังไม่สามารถชัดเจนของผิวได้คะไม่สามารถที่จะ
Edit ได้ไม่สามารถที่จะปิดไฟดวงไหนหรือว่าจะเป็นอีกชื่อของจีนได้ไหมถ้าเกิดว่าเราอยากจะดูหนังผ่าน
Google home ในก็ต้องจำให้ได้ว่าไอ้หลอดเนี่ยเราเซ็ตว่าชื่ออะไรค่อยไปเปิดหลอดนานๆงานลดราคาของตัวมีนี้ก็จะอยู่ที่ประมาณ
39-40 9 เหรียญประมาณพันกว่าบาทส่วนห้องธรรมดาก็อยู่ที่ 99 เหรียญ 3 พันกว่าบาทเลยแล้วก็โกงตัวที่ใหญ่บิ๊กเบิ้มของเราอยู่ที่ประมาณ
12000 บาท 13000 บาทในงานทั้ง 3
ตัวนี้อย่างที่บอกไปว่าปีเตอร์เหมือนกันเป๊ะทุกเรื่องเลยยกเว้นแต่เรื่องพลังของเสียงไหมใครอยากจะแบบโอโหเต็มแม็กเลยก็ไป
Google home Max พี่ใหญ่เลยใครอยากจะได้ลองลงมาฟังเพลงมีปีกบ้างเล็กน้อยเบสมาบ้างก็ตัวบุคคลธรรมดาส่วนใครอยากจะซื้อมาแบบใช้คำสั่งอย่างเดียวหรือว่าอยากจะมีหลายๆจุดก็ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อพวก
Google home Max หรือว่าโกงธรรมดาตัวนี้ก็ไปวางไว้หลายจุดในบ้านมันก็ห้องนั่งเล่นตัวนึง
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น