วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

Review Google Home VS Google Home Mini

รีวิว Google Home VS Google Home Mini

รีวิว Google Home VS Google Home Mini


เนื่องจาก Google home Mini ก่อนนี่คือ Google home Mini ด้านในก็มีตัวก็ Home มีคู่มือแล้วก็มีรักให้แบบนี้ไหมเดี๋ยวเรามาดูตัวเป็นๆแล้วกันทั้ง 2 ตัวเลยทั้ง 3 ตัวนี้ก็ให้คำจำกัดความว่าเป็นน้ำหนักเบาน่ารักพอดีมาเป็นพอร์ต Micro USB ต้องเสียบไฟบ้านตลอดเวลาในด้านข้างก็จะมีสวิตซ์เปิดปิดการรับเสียซึ่งมี 3 สีให้เลือกไหมมีสีแดงสีดำแล้วก็สีเทาที่ผมได้มาตัวนี้เลยด้านบนตรงนี้จะเป็นไฟแสดงสถาระดับของเสียงและการตอบรับของตัว Google ส่วนด้านข้างสามารถเพิ่มและลดเสียงได้โดยการแตะเบาๆเท่านั้นส่วน Google มันก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยด้านล่างก็จะเป็นที่เสียบ AC Power Jack ด้านหลังเป็นปุ่มเปิดปิดการรับเสียงตรงนี้รวมถึงถ้ากดค้างก็จะเป็นการรีเซ็ตตัวโกงไปในตัวในด้านบนจะเป็นไฟแสดงสถาการตอบรับไม่มีการสั่งคำสั่งในการควบคุมระดับเสียงโดยการร่างเป็นวงกลมในและแตะตรงกลางเพื่อเป็นการ Play Pause ในขณะที่เล่นเพลงในส่วนด้านข้างที่จะมีไมโครโฟนอยู่ 2 ตัวซึ่งผมโคตรประทับใจกับการรับเสียงของไมมากในด้านล่างตัวนี้เป็น Cover เป็นแม่เหล็กถอดง่ายเลยมีลำโพงอยู่ 3 ตัวด้วยกันไหม 1 2 แล้วก็ 3 ตัวพรุ่งนี้จะเป็น Micro USB ซึ่งใช้สำหรับการเซอร์วิสเท่านั้นในตู้มีน้ำหนักพอสมควรก็สามารถที่จะตั้งได้มั่นคงแล้วก็ไม่โอนเอนง่ายๆเชื่อมต่อ Google home กับอินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้วแล้วก็ไม่จำเป็นที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์หรือว่ามือถือที่จะควบคุมมันอีกต่อไปก็สามารถที่จะเริ่มประโยคได้เลยคะว่า OK Google หรือว่า Hey Google อยากรู้อะไรก็ถามได้เลยที่ Google what time is it now OK Google What the weather in Osaka Tomorrow อยากจะหาสถานที่ด้วยเดี๋ยวจะทานกาแฟ Ok Google เชื่อมต่อเข้าด้วยกันก็ได้

spotify YouTube แล้วก็รวมถึงผิวที่ผมใช้งานอยู่เลยถ้าเกิดว่าใครยังไม่ได้ดูเนี่ยก็ย้อนกลับไปดูคลิปก่อนหน้านี้ได้ไหม แก๊สที่บ้านแล้วก็สามารถสั่ง Google home เนี่ยเล่นอะไรก็ได้บน Chromecast ไหมให้ google chrome Cache on my YouTube โคตรเจ๋งมากๆเลยตอนนี้ผมใช้งานประมาณ 2 อาทิตย์ผมก็โคตรประทับใจในภาเสียของมันเลยถึงแม้ว่าเราจะอยู่อีกมุมนึงของห้องมันก็ยังรับเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพในแล้วก็ถ้าเกิดว่าห้องนั้นเงียบเลยแค่พูดเบาๆมันก็ยังสามารถรับคำสั่งเราได้เลยแ***โคตรเจ๋งเลยจะเป็นอะไรไม่รองรับภาษาไทยไหมแต่สำหรับผู้ที่ยังไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษหรือว่าสำเนียงยังไม่ได้ยังไม่เป็นก็ไม่ต้องกังวลเพราะว่าการสั่งคำสั่งเนี่ยผมก็จะสนใจแค่รูปประโยคว่าเราอยากให้มันทำอะไรไปทำที่ไหนเลยเช่นถ้าเกิดว่าอยากจะให้เปิดไฟล์ในก็ต้องมีคำว่าเธอนอนไหมหรือว่าอยากจะให้เปิดที่ไหนเนี่ยก็ต้องเป็นไปว่าโอเคอยากให้เปิดไฟที่ห้องนั่งเล่นห้องนอนอะไรประมาณนี้ว่าเราเทียบระหว่าง Apple Home kit กับตัว Google Assistant มันก็จะมีความแตกต่างกันอยู่นิดนึงจากประสบการณ์การใช้ของผมคงคิดว่าสามารถที่จะเสร็จได้เลยว่าห้องเรามีไฟอยู่ 5 ดวงเราอยากจะดูหนังขึ้นมาก็สั่งไปเลยคะว่า Movie Time Wallpaper อะไรก็ตามแต่ที่เราตั้งเอาไว้แล้วก็สามารถที่จะได้ว่าไอ้หมูมีช้างเนี่ยอยากจะให้มันเปิดกี่หลอดเปิดดวงไหนบ้างหรี่ดวงไหนบ้างเป็นแสงสีอะไรมันก็จะสะดวกมากเลยแต่สำหรับตัว Google home แล้วเนี่ยเราไม่สามารถที่จะเซ็ตเป็นทีมแบบนั้นได้ตัวก็งงก็จะไปลิงค์กับตัว Application หิวแต่ตัวให้เป็นเพื่อนของ Siri เนี่ยก็จะมีซีนที่เขาเซฟมาให้แล้วแต่ว่าวันนี้เรายังไม่สามารถชัดเจนของผิวได้คะไม่สามารถที่จะ Edit ได้ไม่สามารถที่จะปิดไฟดวงไหนหรือว่าจะเป็นอีกชื่อของจีนได้ไหมถ้าเกิดว่าเราอยากจะดูหนังผ่าน Google home ในก็ต้องจำให้ได้ว่าไอ้หลอดเนี่ยเราเซ็ตว่าชื่ออะไรค่อยไปเปิดหลอดนานๆงานลดราคาของตัวมีนี้ก็จะอยู่ที่ประมาณ 39-40 9 เหรียญประมาณพันกว่าบาทส่วนห้องธรรมดาก็อยู่ที่ 99 เหรียญ 3 พันกว่าบาทเลยแล้วก็โกงตัวที่ใหญ่บิ๊กเบิ้มของเราอยู่ที่ประมาณ 12000 บาท 13000 บาทในงานทั้ง 3 ตัวนี้อย่างที่บอกไปว่าปีเตอร์เหมือนกันเป๊ะทุกเรื่องเลยยกเว้นแต่เรื่องพลังของเสียงไหมใครอยากจะแบบโอโหเต็มแม็กเลยก็ไป Google home Max พี่ใหญ่เลยใครอยากจะได้ลองลงมาฟังเพลงมีปีกบ้างเล็กน้อยเบสมาบ้างก็ตัวบุคคลธรรมดาส่วนใครอยากจะซื้อมาแบบใช้คำสั่งอย่างเดียวหรือว่าอยากจะมีหลายๆจุดก็ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อพวก Google home Max หรือว่าโกงธรรมดาตัวนี้ก็ไปวางไว้หลายจุดในบ้านมันก็ห้องนั่งเล่นตัวนึง


Review Google Home VS Google Home Mini

Home Automation คือ

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น